“พ่อแม่ของผึ้งหนีความยากลำบาก มาทำงานโรงงานที่สมุทรปราการ ผึ้งเห็นความเหลื่อมล้ำมาตั้งแต่เด็ก เห็นแรงงานควงกะกลายร่างเป็นเครื่องจักรผลิตเงิน เพราะคุณภาพชีวิตเรามันย่ำแย่ เราต้องกระเสือกกระสนหาทางรอดในทุกๆ วัน พ่อแม่ผึ้งต้องทำงานสายตัวแทบขาดเพื่อส่งผึ้งเรียน ให้มีอนาคตที่ดี”

FEED คุยกับ ผึ้ง-พนิดา มงคลสวัสดิ์ หญิงสาววัย 30 ปี ว่าที่ ส.ส.สมุทรปราการ เขต 1 พรรคก้าวไกล อดีตแอร์โฮสเตส ที่ผันตัวเข้าสู่ถนนสายการเมือง กับความคับแค้นเรื่องความเหลื่อมล้ำที่เธอเผชิญตั้งแต่วัยเด็ก

วัยเด็ก ผึ้ง พนิดา

ว่าที่ ส.ส.สมุทรปราการ เขต 1 เล่าให้ทีมFEED ฟังถึงชีวิตของเธอว่าคุณพ่อมีบ้านเกิดอยู่ที่จังหวัดอุดรธานี ส่วนคุณแม่อยู่ที่จังหวัดสกลนคร แต่ต่างจังหวัดไม่มีงานให้ทำคุณพ่อกับคุณแม่ รวมถึงญาติพี่น้องของท่าน จึงเลือกที่จะหนีความยากลำบากมาแสวงหาโอกาสชีวิตที่จังหวัดสมุทรปราการ เพราะความเจริญมันกระจุกตัวอยู่ที่นี่ ก่อนพบรักกันและมี ผึ้ง พนิดา เกิดขึ้นมาบนโลกใบนี้

เธอเล่าว่าวัยเด็กต้องเรียนรู้การดูแลตัวเอง และการอยู่คนเดียว เพราะเป็นลูกคนเดียว และคุณพ่อคุณแม่ต้องทำงานเข้ากะ เป็นพนักงานทั่วไปอยู่ที่โรงงานแห่งหนึ่ง ทำให้เธอเห็นชีวิตแรงงานไทยมาตั้งแต่วัยเด็กว่าพวกเขาทำงานหนัก และถึงแม้จะขยันทำงานแค่ไหน ทำโอทีแบบดับเบิ้ลมีเวลานอนน้อยนิด แต่ส่วนใหญ่แล้วก็ไม่สามารถขยับฐานะขึ้นมาได้เลย

แรงงานไทยกับความเหลื่อมล้ำ

ผึ้ง พนิดา เล่าว่าสมัยที่เธอยังอยู่บ้านเก่า ทุกๆ เช้าประมาณ ตี4 ตี 5 เธอจะเห็นคนในหมู่บ้าน แทบจะทั้งหมู่บ้าน ออกมายืนกันเต็มข้างทางเพื่อรอรถโรงงงานมารับ เพราะสมุทรปราการมีนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ และถ้าโรงงานไหนไม่มีโอที เชื่อไหมว่าพนักงานไม่อยากไปสมัครงาน เพราะลำพังเงินเดือนมันไม่พอใช้ เธอจึงเห็นหลายๆ คนทำโอที ควงกะเข้าเช้าออกดึก คนๆ หนึ่งต้องกลายร่างเป็นเครื่องจักรผลิตเงิน เพราะว่าคุณภาพชีวิตมันย่ำแย่ ทุกคนต้องกระเสือกกระสนหาทางรอด แต่รัฐไม่เคยมีกระบวนการที่จะทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นเลย คุณพ่อคุณแม่ของเธอเองก็ต้องทำงานสายตัวแทบขาดเพื่อส่งเธอเรียนให้มีอนาคตที่ดี

ผึ้ง-พนิดา มงคลสวัสดิ์
ผึ้ง-พนิดา มงคลสวัสดิ์

“มันมีภาพของความเหลื่อมล้ำในทุกระดับ พอจนทรัพย์สินก็จนโอกาส จนการศึกษาแล้วก็วนลูปอยู่แบบนี้ แล้วก็ส่งต่อสังคมแบบนี้ไปเรื่อยๆ หลายคนที่ไม่เข้าใจก็จะบอกว่าคุณไม่พยายามให้มากพอ คุณไม่ขยัน คุณเอาแต่กินเหล้าเหรอ แต่ผึ้งเห็นว่าวิธีนี้มันอาจจะมีแค่การหาความสุขแบบเดียวที่บางคนเขามีก็ได้ เพราะว่าเขาทำงานเป็นเครื่องจักรทั้งวัน มันจะมีเวลาไหนพักผ่อน มันจะมีเวลาไหนไปเสพความสุข เข้าโรงหนังเหรอ…ไม่มีทาง คุณพ่อคุณแม่ผึ้งเองก็ไม่เคยเข้าโรงหนังด้วยซ้ำ

เค้กวันเกิดก้อนแรกที่พ่อแม่ผึ้งได้เป่าคือตอนที่ผึ้งเป็นแอร์โฮสเตสแล้วนะ บ้านผึ้งไม่เคยมีวันเกิด ผึ้งเป็นลูกคนเดียว แต่ไม่เคยจัดงานวันเกิดเลย คนที่มีรายได้ไม่มาก เราจะคิดทุกอย่างว่าเราจะใช้เงินไปกับอะไร เราจะใช้เงินก้อนนี้ซื้ออะไร หรือว่าซื้อแล้วมันคุ้มไหม มันจำเป็นหรือเปล่า เค้กอาจจะไม่ได้จำเป็น ซื้อข้าวกินอาจจะอิ่มกว่ามันเป็นเวย์นั้นเลย”

ตลอดช่วงวัยเด็ก ผึ้ง พนิดา เล่าว่าเธออาศัยอยู่ที่บ้านเช่ามาโดยตลอด เธอจึงมีความฝันที่อยากจะมีบ้านเป็นของตัวเอง โดยตั้งใจสอบเป็นแอร์โฮสเตสให้ได้ พอทำงานได้ 1 ปี ก็ตัดสินใจซื้อบ้านเลย จากนั้นก็เจอวิกฤตโควิด และอุตสาหกรรมท่องเที่ยวก็ไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร เหมือนถูกทอดทิ้ง ทำให้เธอและเพื่อนๆ ต้องกัดฟันฝ่าวิกฤติการณ์กันมาได้โดยลำพัง โดยที่ไม่มีกลไกรัฐเข้ามาช่วยดูแล ถือเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาของชีวิตที่เจ็บปวด และยากลำบาก

แซนวิช เจเนอเรชัน

ผึ้ง พนิดา ยังสะท้อนปัญหาในสังคมตอนนี้ว่าเพื่อนๆ หรือคนใกล้ตัวของเธอแม้จะมีงานทำ มีรายได้ที่มั่นคง แต่หลายคนก็ไม่กล้าที่จะมีลูก เพราะรู้สึกว่ายังไม่มั่นคงมากพอ หนำซ้ำคนกลุ่มนี้ยังเป็นกลุ่มคนที่อยู่ตรงกลาง พวกเขาต้องดูแลพ่อแม่ที่เกษียณอายุและลูกๆ เป็นคนตรงกลางที่เหนื่อยที่สุด ต้องแบกรับทุกอย่าง ไม่สามารถพักได้เลย สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยยังขาดรัฐสวัสดิการ ที่จะดูแลคนทุกกลุ่ม

ยกตัวอย่าง แรงงานทำงานหนักมาตลอดชีวิต สร้างรายได้ให้กับประเทศ เมื่อเกษียณแก่ตัวลงเขาได้รับเงินตอบแทน 600 / 700 / 800 บาท ซื้อได้แค่ไข่ต้มมื้อละครึ่งฟอง มันไม่มีทางพอหรอก เธอบอกกับ FEED ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นคำถามที่ค้างคาใจตั้งแต่เด็กว่าอำนาจไหนจะสร้างความเปลี่ยนแปลงได้ และเธอเคยคิดอยากจะเป็น นายกรัฐมนตรี หญิงของประเทศไทยด้วยซ้ำ แม้จะรู้สึกว่ามันไกลตัวมากๆ และไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะได้เข้ามามีอำนาจทางการเมืองเช่นนี้

 ผึ้ง-พนิดา มงคลสวัสดิ์
ผึ้ง-พนิดา มงคลสวัสดิ์

จุดเริ่มต้นทางการเมือง

ว่าที่ ส.ส.ก้าวไกล เล่าว่าเธอเห็นคุณพ่อออกไปร่วมชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง เห็นคนมากมายออกไปชุมนุมเรียกร้องความยุติธรรม ตอนนั้นก็ได้แต่คิดว่าเขาไปกันทำไม มันเกิดอะไรขึ้น แต่ท้ายที่สุดมีคนถูกทำร้ายจากภาครัฐ มีคนเสียชีวิต เกิดการฆ่ากันขึ้นกลางเมือง ทำให้ ผึ้ง พนิดา เริ่มสนใจ ติดตาม และศึกษาการเมืองมากขึ้น

“ผึ้งจำได้ว่าตอนนั้นที่มีการสลายการชุมนุม ผึ้งอยู่ที่ห้องเรียนสมัยนั้นใช้โทรศัพท์บีบี ก็จะมีบอร์ดแคชขึ้นมาว่ามีการสลายการชุมนุม แล้วก็มีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้น น้ำตาผึ้งก็ไหล แล้วมีเพื่อนที่มีความคิดความเชื่อคนละแบบ ก็มาบอกว่าเฮ้ยควายแดงเหรอถึงร้องไห้ ฟีลแบบนั้นเลย มันก็รู้สึกว่าทำไมความเข้าใจมันถึงเป็นแบบนั้น ทำไมถึงรู้สึกแบบนั้น ทำไมถึงรู้สึกสะใจกับการที่มีคนเสียชีวิต จากนั้นเลยเริ่มศึกษาประวัติศาสตร์การเมือง อ่านหนังสือหาความรู้ที่ไม่มีในบทเรียน”

จนกระทั่งเกิดการชุมนุมเมื่อปี 2563 เจ้าหน้าที่ตัดสินใจใช้รถฉีดน้ำใส่ผู้ชุมนุม (16 ตุลาคม 2563) ความรู้สึกตอนนั้นคือความโกรธและคับข้องใจทำไมเจ้าหน้าที่ถึงทำร้ายประชาชนได้ เธอจึงตัดสินใจว่าถึงเวลาแล้ว ต้องทำอะไรสักอย่าง ประกอบกับเห็นคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เริ่มออกมาพูดถึงประเด็นต่างๆ ทางการเมือง ไฟในใจเธอก็ติดพรึ่บพร้อมๆ กับน้ำตาที่ไหลออกมาเรื่อยๆ จึงตัดสินใจสมัครเป็น ส.ส.ของพรรคก้าวไกล ทันที

 ผึ้ง-พนิดา มงคลสวัสดิ์
ผึ้ง-พนิดา มงคลสวัสดิ์

ขั้นตอนสมัคร ส.ส.พรรคก้าวไกล

แต่กว่าจะเป็นว่าที่ ส.ส.ก้าวไกล ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ผึ้ง พนิดา เล่าเบื้องหลังการสมัครเป็นตัวแทนของพรรคก้าวไกล ว่าใบสมัครที่พิมพ์ส่งไปไม่ได้ถามข้อมูลมากนัก มีคำถามทดสอบแนวคิดนิดหน่อย จากนั้น คุณเจี๊ยบ อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ได้โทรศัพท์มาบอกว่าเห็นประวัติน่าสนใจจึงนัดหมายให้ไปสัมภาษณ์ จังหวะนั้น ผึ้ง พนิดา เล่าว่าตัวเธอสั่นไปหมด เพราะตื่นเต้น และไม่คิดมาก่อนคนธรรมดาอย่างเราๆ จะมีโอกาสด้วยเหรอ

ช่วงเวลาที่สัมภาษณ์เป็นการสัมภาษณ์ที่นานมาก ประมาณ 2 ชั่วโมงเต็ม สอบถามตั้งแต่แนวคิดด้านต่างๆ เช่น วาระทางสังคม อุดมการณ์ มีเรื่องเฉพาะเจาะจงบ้าง เรื่องที่แหลมคมบ้าง เพราะเขาอยากรู้ว่าเธอจะมีวิธีคิดแบบไหน จะเดินไปด้วยกันได้ไหม เมื่อผ่านการสัมภาษณ์ก็ต้องไปแนะนำตัวกับทีมเครือข่ายสมาชิก มีตัวแทนเขตประจำจังหวัด ตัวแทนบริหารประจำจังหวัด เป็นต้น

“ผึ้งเชื่อมั่นในการทำงาน อุดมการณ์ และหลักการของก้าวไกล เลยกล้าตัดสินใจเข้ามาทำงานการเมืองกับก้าวไกล มีคำถามหนึ่งเหมือนกันนะ ถามว่าถ้าให้เลือกทำงานกับพรรคการเมือง 3 พรรค อยากจะทำกับที่ไหน ผึ้งบอกว่าผึ้งอยากทำที่เดียวคือก้าวไกล ผึ้งไม่ได้อยากทำงานกับพรรคการเมืองอื่น ถ้าเกิดไม่ใช่ก้าวไกลผึ้งก็จะกลับไปบิน”

 ผึ้ง-พนิดา มงคลสวัสดิ์
ผึ้ง-พนิดา มงคลสวัสดิ์

ยืนยันไม่หักหลังประชาชน

ผึ้ง พนิดา ยังขอบคุณประชาชนที่มอบความไว้วางใจให้กับเธอ เธอจะทำงานให้คุ้มค่ากับภาษีทุกบาททุกสตางค์ และยืนยันกับประชาชนด้วยคำสัญญาว่าไม่มีทางทำให้ผิดหวัง และจะไม่ยอมแลกความความฝันอันยิ่งใหญ่กับวัตถุนิยมใดๆ อย่างแน่นอน

“ทุกท่านฟังไว้ให้ดีนะคะ เลือก ผึ้ง พนิดา คนนี้เข้าสสภา ไม่มีทางผิดหวัง และไม่มีทางที่จะเห็นผึ้งย้ายไปทำงานกับใครก็ตาม ผึ้งมาจากเสียงของพี่น้องประชาชนทุกคน ด้วยคำมั่นสัญญาว่าผึ้งจะผลักดันนโยบายพรรคก้าวไกล 300 กว่านโยบายให้มันสำเร็จให้ได้ แล้วผึ้งจะจบที่นี่เหมือนกัน ผึ้งมีเป้าหมายทางการเมืองที่ชัดเจน มีเจตนารมณ์ที่ชัดเจนว่าต้องการทำอะไร ขอให้มั่นใจได้เลยว่าไม่มีทางทำให้ผิดหวังแน่นอน

ผึ้งไม่มีทางแลกอนาคตของผึ้ง ไปกับอะไรที่มันไม่คุ้มค่าแน่นอน ผึ้งยังมีความฝันที่ยิ่งใหญ่ การสร้างความเปลี่ยนปลงให้กับประเทศนี้ การจะพาประเทศไปสู่จุดที่ไกลกว่านี้ ทำให้ทุกคนเท่าเทียมกัน ซึ่งมันใช้เวลาแน่นอน ยังมีสิ่งที่อยากทำอยู่เยอะ ไม่มีทางแลกมันกับของที่มันเป็นวัตถุนิยมแน่นอน คุณจะไม่มีทางเห็นผึ้ง พนิดาเป็นคนแบบนั้นแน่นอน”  

ผึ้ง พนิดา กล่าว

คลิปสัมภาษณ์ ผึ้ง – พนิดา

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ (Strictly Necessary Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้มีความสำคัญต่อการปฏิบัติการของเว็บไซต์ feedforfuture.co ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและเนื้อหาต่างๆ ของเว็บไซต์เราได้ทุกส่วน โดยเฉพาะส่วนสมาชิกผู้ใช้งานของเว็บไซต์ ตลอดจนการตรวจสอบจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้ด้านประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อวิเคราะห์ และช่วยให้เราทราบถึงพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งานบนเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการบันทึก และจดจำคุณลักษณะต่างๆ ที่ท่านได้เลือกขณะเข้าชมเว็บไซต์ของเรา เช่น หมวดหมู่ และเนื้อหาที่ท่านชอบอ่านมากที่สุด เราจะบันทึกข้อมูลเหล่านี้ และนำกลับมาใช้เมื่อท่านกลับเข้ามาที่เว็บไซต์ของเราอีกครั้ง เพื่อปรับให้ท่านได้รับชมเนื้อหาได้ตรงกับความชอบของท่านให้มากที่สุด

  • คุกกี้เพื่อนำเสนอโฆษณาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Advertising Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อจดจำพฤติกรรมการอ่านเนื้อหาบนเว็บไซต์ของท่าน รวมถึงรายละเอียดของอุปกรณ์ที่ท่านใช้ เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์การนำเสนอโฆษณาที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุด และช่วยวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณาที่เรานำเสนอด้วย ตลอดจนช่วยป้องกัน หรือจำกัดจำนวนครั้งที่ท่านจะเห็นโฆษณาเดิมซ้ำๆ

บันทึก