“สมองของฉัน ไม่ยอมรับรู้อะไร ใครพูดยังไง ก็ฟังไม่ค่อยได้ยิน แหละใจมันเศร้ามันซึม ข้าวปลาก็ไม่ได้กิน สุดถวิล ไม่กินไม่นอน ท้องฉันก็ไม่รับ ก็ไม่รับ อย่างดีก็ได้แต่ร้อง ท้องไม่รับซักอย่าง อะไรมันก็ไม่รับ มันไม่รับ มันไม่รับ ไอ้ที่มันเป็นอย่างเงี้ยะ เพราะเธอคนเดียว”
“ให้มันจมลงไปสุดใจ ปล่อยไว้ไม่ต้องดูแล แค่นี้ก็คงเพียงพอกับใจฉัน ปล่อยให้จมลงไปสุดใจ ถ้าเธอนั้นไม่รักกัน ปล่อยให้จมอยู่ตรงนั้น ไม่เอาคืน”
หากใครร้องสองเพลงนี้ได้บอกเลยว่าคุณไม่เด็กแล้วนะ เพราะนี่คือเพลงท้องไม่รับ และไม่เอาคืน สองบทเพลงชื่อดังของ “ดัง พันกร” หรือ พันกร บุญยะจินดา ชื่อจริงในปัจจุบัน สหัสสกรพรพันศิวิไลไทประเสริฐ ศิลปิน RS เจ้าของผลงานเพลงล้านตลับในตำนานแห่งยุค 90 ต่อเนื่อง 2000 ล่าสุดชาวโซเชียลได้มอบฉายาใหม่เป็น แม่นายดัง ผู้ติดตามทุกเรื่องราวในโลกโซเชียล กับการเปิดเพจ ดัง พันกร – DK Official ซึ่งโพสต์ทันทุกเหตุการณ์ แซ่บทุกประโยค และมีผู้ติดตามกว่า 8 แสนคน
รีแคปจุดเริ่มต้นศิลปินล้านตลับ
ดัง พันกร ให้สัมภาษณ์พิเศษรีแคปย้อนจุดเริ่มต้นการเป็นศิลปินล้านตลับว่าตัวเองเป็นคนชอบร้องเพลงอยู่แล้ว แต่ตอนนั้นเรียนอยู่ที่ต่างประเทศ พอปิดเทอมกลับมาเมืองไทย ก็มีโอกาสได้เจอพี่คนหนึ่งที่ RS ชวนไปเทสต์เสียงให้ผู้ใหญ่ฟัง เรื่องราวฟังดูเหมือนง่ายแต่จริงๆ แล้ว ก่อนหน้านั้นเขาไปออดิชั่นมาแล้วหลายที่แต่ไม่ผ่าน เมื่อได้รับผลตอบกลับว่าผู้ใหญ่ที่ RS รู้สึกสนใจจึงทำให้เขาได้แจ้งเกิดเป็นศิลปินที่ตัวเองใฝ่ฝัน
“มันเหมือนกับความฝันที่เป็นจริง เป็นความใฝ่ฝันเราตั้งแต่ยังเล็กว่าอยากเป็นนักร้องที่มีเพลงเป็นของตัวเอง มีอัลบั้ม มีคนดูเยอะๆ มีคนกรี๊ดเวลาเราขึ้นเวที เวลาเราอยู่บ้านจัดงานเลี้ยง เราก็จะขึ้นไปร้องแต่ไม่มีเสียงกรี๊ดเป็นเสียงปรบมือ แต่ความใฝ่ฝันของเราคืออยากเป็นนักร้องจริงๆ”
เมื่อมองย้อนกลับไปในช่วงเวลานั้น ดัง บอกว่าเขารู้สึกภาคภูมิใจที่เทปขายได้ล้านตลับ แต่ความรู้สึกตอนนั้นมันแทบไม่มีเวลาให้ชื่นชมผลงานตัวเองได้เลย เพราะต้องทำงานติดๆ กัน ทั้งอัดเพลง ทัวร์คอนเสิร์ต พอมีวันว่างก็ถ่ายปกเทป ช่วงเวลานั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือสุขภาพต้องดูแลอย่างดีให้งานเสร็จสมบูรณ์
ความกดดันของลูกนายตำรวจใหญ่
สำหรับ ดัง พันกร เป็นลูกชายของ พลตำรวจเอก พจน์ บุณยะจินดา อดีตอธิบดีกรมตำรวจ (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในปัจจุบัน) กับ คุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา และมีพี่สาวอีก 2 คน เมื่อมีพ่อเป็นนายตำรวจใหญ่ แต่ตัวเขาเองมาทำหน้าที่นักร้องก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์บ้าง แต่ยืนยันไม่ได้มีอภิสิทธิ์เหนือใคร และไม่ได้รู้สึกกดดันหรือทำให้ความตั้งใจที่จะเป็นนักร้องอาชีพสั่นคลอน เวลาเดินไปไหนมาไหนคนก็มองว่าเขาคือนักร้อง ไม่ได้มองว่าเขาคือลูกของใคร พ่อก็คือพ่อเหมือนกับคนอื่นๆ
ชีวิตในวงการกว่า 26 ปี เขาเชื่อว่าสิ่งที่ทำให้ยังยืนอยู่ตรงนี้ได้ เพราะการเป็นนักร้องคือความเป็นตัวเอง ไม่ต้องเสแสร้งเป็นคนอื่น และที่ผ่านมาก็ไม่คยบอกว่าตัวเองเป็นสามีที่สาวๆ กรี๊ด หรือเป็นอะไรทั้งนั้น แต่พอเวลาผ่านไปมุมมองคนก็อาจจะต่างไป แฟนคลับบางคนเติบโตมีลูก บางคนโสด ความคิดความอ่านก็มองเราต่างไป มีสามี โตแล้ว เราก็มีสามีของเราแล้ว (หัวเราะ) แต่พวกเราก็ยังรักกันอยู่นะ
ในฐานะศิลปิน ดัง ยังรู้สึกว่าเราไม่ได้เป็นแค่นักร้องที่มาร้องเพลงให้คนฟังอย่างเดียว แต่เราต้องดูแลใจซึ่งกันและกัน ประคับประคอง ฮีลใจกันด้วย ทำให้เขาฟังเพลงแล้วมีแง่คิด มีมุมมองใหม่ๆ มีกำลังใจใช้ชีวิต ไม่ใช่การทำงานเพลงไปวันๆ และแน่นอนว่าในทุกผลงานทุกคนมีสิทธิที่จะชอบหรือไม่ชอบเป็นเรื่องธรรมดา คนที่ชอบเราก็รักษาไว้ให้ดี คนที่ไม่ชอบก็ปล่อยเขาไปอย่าไปกังวลมากกับคำวิพากษ์วิจารณ์ตัดสิ่งที่บั่นทอนจิตใจออกไป แล้วนำมาทบทวนกับตัวเอง และเร็วๆ นี้จะมีผลงานที่อาจจะหยิบอะไรเก่าๆ ออกมาควบคู่กับเพลงใหม่ๆ ที่เติบโตทั้งในเชิงความคิดความอ่าน แต่ยังอยู่ในทุกเพศทุกวัย ให้แฟนๆ หายคิดถึง
“เพลงมันไม่ใช่ว่าเสกได้ บางทีเพลงมันต้องใช้เวลา แล้วต้องอยู่กับมันด้วยใจรักจริงๆ เพลงเสร็จก็ต้องมานั่งดูว่าเพลงมันดีพอหรือยัง ถ้าเราเฉยๆ คนอื่นก็เฉย ถ้าเราชอบคนอื่นก็อาจมีสิทธิที่จะชอบเหมือนเรา”
เรื่องราวความรักของ ดัง พันกร
ปิดท้ายบทสัมภาษณ์ด้วยการถามถึงเรื่องราวความรักของดัง พันกร เขาตอบเรื่องนี้จริงจังว่าตอนนี้ไม่มีใครดูแลหัวใจ ยังไม่มีโอกาสเจอคนที่ใช่ หรือยังไม่ใช่เวลาของมัน ส่วนหนึ่งตัวเองก็เป็นคนที่มีความคาดหวังประมาณหนึ่งกับคนที่จะมาเป็นแฟน ทำให้บางทีอาจจะยังไม่เจอจุดนั้น ประกอบกับที่ผ่านมาที่บ้านเป็นครอบครัวใหญ่ มีเพื่อนๆ ญาติๆ อยู่รอบตัวตลอดจึงได้รู้สึกว่าขาดอะไรไป
ส่วนการก่อตั้งเพจ ดัง พันกร – DK Official เนื่องจากดังต้องการใช้เป็นพื้นที่แจ้งข้อมูลข่าวสารของตัวเอง แต่มันก็พัฒนามาเรื่อยๆ จากข่าวสารตัวเองกลายเป็นข่าวสารทางสังคม ข่าวในกระแส ที่หยิบยกมาพูดถึงกันด้วยข้อความที่ไม่เครียด เน้นให้ผ่อนคลาย หัวเราะได้ เหมือนกลุ่มเพื่อนที่เฮไหนเฮกัน โยนความสุขให้กันไปมา ส่งผลให้มีผู้ติดตามต่อเนื่องจนเพจเติบโตอย่างรวดเร็ว
“ดังขอขอบคุณแฟนๆ ที่ยังรัก เอ็นดู ส่งพลังงานความรู้สึกดีๆ ความสุขให้กันมาตลอด รู้สึกซาบซึ้งใจมากตั้งแต่อัลบั้มแรกจนปัจจุบันเป็นเวลากว่า 26 ปีแล้ว ดัง จะตั้งใจทำงานต่อไปให้ดีที่สุด เพื่อที่จะมอบให้กับคุณผู้ฟัง คุณผู้ชมอย่างต่อเนื่อง ขอบคุณแฟนคลับทุกคนด้วยที่ยังอยู่ด้วยกันมายาวนานถึงขนาดนี้ ขอบคุณน้องๆ รุ่นใหม่ๆ ด้วย ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”
รับชมคลิปสัมภาษณ์ช่องทาง YouTube FEED RETRO