ยุคสมัยแห่งการเปลี่ยนแปลง เชื่อว่าแทบจะทุกธุรกิจต่างมุ่งเป้าหมายเดียวกันคือ “ความยั่งยืน” พูดง่าย ๆ ว่าหากใครที่ไม่ได้ดำเนินตามแนวทางนี้อาจทำให้หลุดจากกระแส รวมถึงเส้นทางที่จะนำไปสู่การเติบโตเป็นไปอย่างยากลำบากขึ้น และการเข้าไปอยู่ในใจของผู้บริโภค ตลาด สังคมที่อาจถูกลดทอนลงไปด้วยเช่นเดียวกัน โดยเป็นเรื่องที่น่ายินดีว่าทุกวันนี้หลาย ๆ ธุรกิจเริ่มหันมามองภาพและกลยุทธ์ที่จะใช้ร่วมกันคือ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) และกรอบแนวคิด ESG ที่มุ่งการพัฒนาที่สร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจบนพื้นฐานของการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Environmental) มีความรับผิดชอบต่อสังคม ดูแลสังคมรอบข้าง (Social) และดำเนินธุรกิจ
อย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ หรือมีธรรมาภิบาล (Governance) แต่อย่างไรก็ตามการจะขับเคลื่อนธุรกิจไปในแนวทางนี้ก็อาจไม่ใช่เรื่องที่ง่าย และการจะเริ่มทำอย่างจริงจังก็ยังไม่ได้มีสูตรสำเร็จที่ตายตัวที่เริ่มทำได้ทันที

Sustainable DNA” สิ่งต้องมีในตัวผู้ประกอบการ

รศ.ดร.ณัฐวุฒิ พิมพา ประธานหลักสูตร Managing For Sustainability (หลักสูตรนานาชาติ) วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) กล่าวว่า นับเป็นเรื่องน่ายินดีที่ปัจจุบันนี้ ภาคธุรกิจต่างตื่นตัว ปรับตัว และยกระดับคุณภาพองค์กรเพื่อตอบรับกระแสการพัฒนาอย่างยั่งยืน และนำแนวคิด ESG มาเป็นนโยบายหลักขององค์กรแต่การจะขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ ให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายได้นั้น ต้องส่งเสริมให้พนักงานซึ่งเป็นฟันเฟืองสำคัญขององค์กรมีความรู้ความเข้าใจเรื่องความยั่งยืนของธุรกิจโดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องปลูกฝัง Sustainable DNA หรือ DNA แห่งความยั่งยืนให้อยู่ในจิตสำนึก วิธีคิดวิธีปฏิบัติ จนกลายเป็นนิสัยที่ติดตัวไปใช้ในการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันของพนักงานทุกคน ควบคู่ไปกับการสร้างบรรยากาศและสภาพแวดล้อม (Ecosystem) ที่เอื้อให้เกิด Sustainable DNA พร้อมชู “GREAT” 5 ทักษะที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของ Sustainble DNA ที่พนักงานจำเป็นต้องมี

Business partnership leader gather to nurture young seedling plant with ESG icons, symbolizing corporate unity commitment to environmental protection and natural preservation. Reliance

 “GREAT” รหัสใหม่แต่ไม่ลับของSustainable DNA” ที่ผู้ประกอบการทุกคนสร้างได้

Growth Mindset – เพราะโลกทุกวันนี้เต็มไปด้วยการแข่งขัน แค่หยุดนิ่งก็อาจเท่ากับถอยหลัง ผู้มี Sustainablity DNA จึงจำเป็นต้องมี Growth Mindset ซึ่งก็คือแนวคิดที่เชื่อว่าเราทุกคนต่างมีศักยภาพในตนเองและเชื่อว่าทักษะ ความรู้ ความสามารถของตนเองนั้นสามารถพัฒนาได้อย่างไม่สิ้นสุดหากตั้งใจใฝ่เรียนรู้ และพยายามฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการมีทัศนคติที่ดีและคิดบวกตลอดเวลา มองการณ์ไกล กล้าเผชิญปัญหา มองอุปสรรคเป็นความท้าทาย มองความผิดพลาดเป็นบทเรียน ไม่ยึดติดกับกรอบเดิมๆ มองหาโอกาสใหม่ๆ ที่จะเติบโตและก้าวไปข้างหน้า เพื่อค้นหาสิ่งที่ดีกว่า และเชื่อมั่นว่าหนทางข้างหน้า
ต้องดีกว่าเดิม

Responsibility – หมดยุคที่ธุรกิจจะมุ่งแสดงหาผลกำไรเพียงอย่างเดียวโดยไม่สนใจสังคม และสิ่งแวดล้อม ผู้มี Sustainablity DNA จึงจำเป็นต้องตระหนักถึงความรับผิดชอบที่ควรมีทั้งต่อลูกค้า สังคม และสิ่งแวดล้อม และทำด้วยจิตสำนึกรับผิดชอบอย่างแท้จริง ไม่ใช่ทำตามกระแส ฉาบฉวย หรือแค่สร้างภาพลักษณ์ ความรับผิดชอบต่อลูกค้า เช่น พร้อมดูแล ให้คำปรึกษา ช่วยแก้ปัญหา และยินดีรับข้อเสนอแนะหรือข้อร้องเรียนต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประโยชน์และความพึงพอใจสูงสุดจากการใช้สินค้า และบริการ ความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะทำอะไรต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย สังคมรอบข้าง และสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก และพร้อมที่จะหลีกเลี่ยงการกระทำที่อาจก่อให้เกิดกระทบนั้นๆ หรือหากเลี่ยงไม่ได้ก็พยายามให้เกิดผลกระทบน้อยที่สุด เมื่อมีความผิดพลาดเกิดขึ้นก็ไม่แก้ตัวแต่พร้อมแก้ไขให้ดีขึ้น รวมไปถึงการมีจิตอาสา มีจิตสำนึกเพื่อส่วนรวม พร้อมร่วมทำกิจกรรมต่างๆ ที่เป็นสาธารณประโยชน์

Green business ESG management tool to save world future concept model case idea to deal with bio carbon waste cycle data for better day of city life while building jobs, money, LCA tax and profit .

Environment Care –  ผู้มี Sustainablity DNA จำเป็นต้องมีความตระหนักรู้และเข้าใจความรุนแรงของปัญหาสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิกฤตสภาพภูมิอากาศที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ในเวลานี้ และมีจิตสำนึกที่จะร่วมดูแล อนุรักษ์ และลดปัญหาสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะทำกิจกรรมใดๆ ก็คำนึงถึง “ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม” โดยเริ่มจากเรื่องง่ายๆ ใกล้ๆ ตัว ด้วยการรู้จักใช้ทรัพยากรอย่างชาญฉลาด ใช้อย่างคุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุด ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด เช่น ลดการใช้พลาสติก ประหยัดน้ำ ประหยัดไฟ ลดการใช้พลังงาน ใช้ทรัพยากรต่างๆ เท่าที่จำเป็น เลือกใช้วัสดุที่รีไซเคิลได้หรือสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ แยกขยะเป็นนิสัย และเลือกใช้สินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

Adaptibility  ในโลกที่ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วผู้มี Sustainablity DNA จำเป็นต้องมีความคิดที่ยืดหยุ่นมีความเข้าใจและมีทัศนคติที่ดีต่อการเปลี่ยนแปลง ไม่ยึดติดกับความเคยชินเดิมๆ พร้อมเปิดใจเรียนรู้ ยอมรับสิ่งใหม่ มีความสามารถในการปรับตัวอยู่ตลอดเวลา และไม่ว่าจะเจอกับวิกฤตปัญหาใดก็สามารถรับมือและเอาตัวรอดได้ในทุกๆ สถานการณ์

Technology Skill – และทักษะสุดท้ายที่ผู้มี Sustainability DNA จำเป็นต้องมี คือ การมีTechnology Skill หรือทักษะในการบริหารจัดการ รู้จักวิธีการใช้ และเลือกใช้เทคโนโลยีได้อย่างเหมาะสม ซึ่งเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญของการพัฒนาในทุกมิติทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม และเป็นพื้นฐานของการพัฒนาในโลกอนาคต

CMMU ร่วมสร้างบุคลากรที่มี Sustainable DNA ให้กับสังคม

รศ.ดร. ณัฐวุฒิ กล่าวเพิ่มเติมว่า CMMU ในฐานะภาคการศึกษาจึงมีความพยายามอย่างยิ่งที่จะปูรากฐานด้านความยั่งยืนและผลักดันการบริหารธุรกิจย่างยั่งยืนตามกรอบ ESG ด้วยการสร้างบุคลากรที่มี Sustainable DNA ให้กับสังคม เพื่อเป็นฟันเฟืองในการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้ภาคธุรกิจไทยก้าวข้ามทุกอุปสรรคปัญหา พิชิตความท้าทาย ปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงได้ และบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน CMMU จึงได้บรรจุสาขา Managing For Sustainability (MFS) ไว้หลักสูตรนานาชาติ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้เรียนจากทั่วโลกสามารถเรียนได้โดยไร้ข้อจำกัดทางภาษา โดยมีโครงสร้างหลักของหลักสูตร ที่ตอบโจทย์การพัฒนาอย่างยั่งยืนอย่างครบวงจร คือ

1. Sustainable Leadership in Action การสร้างความเป็นผู้นำ ซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการกระตุ้น ปลูกฝัง และเป็นแบบอย่างให้บุคลากรในองค์กรหันมาสนใจเรื่องความยั่งยืน

2. Sustainability Strategy การวางกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน รวมไปถึงการใช้เครื่องมือทางธุรกิจและการเงินเพื่อความยั่งยืน ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดกรอบทิศทางการพัฒนาองค์กร

และ 3. Sustainable Logistics and Supply Chain Management การจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างยั่งยืนในอุตสาหกรรมที่หลากหลาย

 “เราตั้งใจออกแบบหลักสูตรที่ไม่ใช่แค่เพื่อตอบโจทย์ทางธุรกิจ แต่ยังอยู่บนพื้นฐานความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เราเน้นการสอนที่ไม่ใช่มุ่งสร้างแต่คนเก่ง แต่ยังมุ่งปลูกฝังให้ทุกคนมี Sustainable DNA ที่มีสำนึกรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมทั้งวิธีการคิดและการปฏิบัติ มีความพร้อมปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลง เพื่อพัฒนาธุรกิจสู่ความยั่งยืน

รศ.ดร.ณัฐวุฒิ พิมพา ประธานหลักสูตร Managing For Sustainability (หลักสูตรนานาชาติ) วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU)
รศ.ดร.ณัฐวุฒิ พิมพา ประธานหลักสูตร Managing For Sustainability (หลักสูตรนานาชาติ) วิทยาลัยการจัดการ
มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU)

นอกจากนี้ รศ.ดร. ณัฐวุฒิ ยังกล่าวเสริมอีกว่า โดยโครงสร้างของหลักสูตรที่ตอบโจทย์การพัฒนาองค์กรและธุรกิจอย่างยั่งยืนอย่างครบวงจร คือ

1. Sustainable Leadership in Action กลุ่มวิชาที่ให้ความสำคัญต่อการสร้าง mindset  สำหรับภาวะผู้นำแห่งความยั่งยืนในบริบทโลกยุคใหม่ ที่เข้าใจ และ ประยุกต์แนวคิดธุรกิจยั่งยืนได้ รวมทั้งเป็นบุคคลต้นแบบแห่งความยั่งยืนสำหรับบุคลากรอื่นๆในองค์กร

2. Sustainability Strategy กลุ่มงวิชาที่เน้น skillset เพื่อออกแบบและพัฒนากลยุทธ์ด้านความยั่งยืน เช่น นโยบายด้านคาร์บอน การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ หรือ การตรวจทานประเด็นสิทธิมนุษยชน และ แรงงาน นอกจากนี้ในกลุ่มวิชานี้จะรวมถึงการใช้เครื่องมือทางธุรกิจและการเงินเพื่อจัดการประเด็นความยั่งยืน ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการกำหนดกรอบทิศทางการพัฒนาองค์กร

และ 3. Sustainable Logistics and Supply Chain Management  กลุ่มวิชาที่เน้นแนวทางการจัดการห่วงโซ่อุปทานที่นำไปสู่การประหยัดพลังงานและต้นทุน การสร้างประสิทธิภาพ และ การนำกรอบ GRI and SDGs มาใช้ในการพัฒนากระบวนการแห่งความยั่งยืน

ไม่เพียงเท่านั้น CMMU ยังมีการนำประเด็นด้านความยั่งยืนสอดแทรกเข้าไปในทุกหลักสูตรการเรียนการสอน เพื่อให้ผู้เรียนทุกคนสามารถนำศาสตร์ด้านความยั่งยืนไปประยุกต์ใช้กับสาขาวิชาที่เรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และกลายเป็นนักบริหารที่ใส่ใจปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม พร้อมบริหารธุรกิจไปสู่ความยั่งยืน

สำหรับผู้ที่สนใจ ซีเอ็มเอ็มยู เปิดสอนหลักสูตรการจัดการมหาบัณฑิต ครอบคลุมทุกด้านของการจัดการธุรกิจ ทั้งหลักสูตรไทย หลักสูตรนานาชาติ และหลักสูตรออนไลน์ นานาชาติ โดยทุกหลักสูตรได้รับการรับรองมาตรฐานจาก AACSB ซึ่งมีมหาวิทยาลัยเพียง 5% ของโลกที่ได้รับการรับรองนี้ สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) โทรศัพท์ 02-206-2000 หรือเพจเฟซบุ๊ก CMMU Mahidol (https://www.facebook.com/CMMUMAHIDOL)

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้ที่จำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ (Strictly Necessary Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้มีความสำคัญต่อการปฏิบัติการของเว็บไซต์ feedforfuture.co ซึ่งจะช่วยให้ท่านสามารถเข้าถึงข้อมูลและเนื้อหาต่างๆ ของเว็บไซต์เราได้ทุกส่วน โดยเฉพาะส่วนสมาชิกผู้ใช้งานของเว็บไซต์ ตลอดจนการตรวจสอบจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้ด้านประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ (Performance Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อรวบรวมข้อมูลทางสถิติเกี่ยวกับการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน เพื่อวิเคราะห์ และช่วยให้เราทราบถึงพฤติกรรมการใช้งาน ซึ่งจะช่วยปรับปรุงการทำงานของเว็บไซต์เพื่อให้ท่านได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดในการใช้งานบนเว็บไซต์ของเรา

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาเข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Targeting Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้ในการบันทึก และจดจำคุณลักษณะต่างๆ ที่ท่านได้เลือกขณะเข้าชมเว็บไซต์ของเรา เช่น หมวดหมู่ และเนื้อหาที่ท่านชอบอ่านมากที่สุด เราจะบันทึกข้อมูลเหล่านี้ และนำกลับมาใช้เมื่อท่านกลับเข้ามาที่เว็บไซต์ของเราอีกครั้ง เพื่อปรับให้ท่านได้รับชมเนื้อหาได้ตรงกับความชอบของท่านให้มากที่สุด

  • คุกกี้เพื่อนำเสนอโฆษณาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย (Advertising Cookies)

    คุกกี้ประเภทนี้ใช้เพื่อจดจำพฤติกรรมการอ่านเนื้อหาบนเว็บไซต์ของท่าน รวมถึงรายละเอียดของอุปกรณ์ที่ท่านใช้ เพื่อนำไปใช้วิเคราะห์การนำเสนอโฆษณาที่เหมาะสมกับท่านมากที่สุด และช่วยวัดความมีประสิทธิผลของโฆษณาที่เรานำเสนอด้วย ตลอดจนช่วยป้องกัน หรือจำกัดจำนวนครั้งที่ท่านจะเห็นโฆษณาเดิมซ้ำๆ

บันทึก