“ถ้าคุณไม่อยากให้ครอบครัวเดือดร้อน จงอยู่อย่างปกติ การอยู่บนโลกใบนี้ในสภาพร่างกายเป็นแบบนี้ มันไม่ดีกับตัวคุณ และคนรอบข้างทั้งหมด อย่าลืมว่าคุณป่วย ครอบครัวคุณป่วยด้วย คุณต้องรีบหายให้เร็วที่สุด”
อ๊อฟ – พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง นักแสดง นักร้อง และผู้กำกับชื่อดัง ให้สัมภาษณ์ถึงผลงานการกำกับภาพยนตร์เรื่องล่าสุด “ห่าก้อม” พร้อมเล่าว่าหลังได้รับโจทย์ให้ทำหนังผีก็เริ่มหาข้อมูลว่าจะทำหนังผีประเภทไหนดี จนเจอกับผีที่เรียกว่าห่าก้อม หรือพญาปอบ โดยมีข้อมูลว่ามันคืออภิมหาปอบที่มีฤทธิ์เดชมากกว่าปอบทั่วไป บางข้อมูลก็บอกว่ามันคือปอบที่เกิดจากหมอผี หรือคนที่มีวิชาเลี้ยงผีเลี้ยงปอบแล้วเข้าตัว
“เอาจริงๆ นะ หนังเรื่องนี้บอกว่าปอบอยู่ในตัวเราทุกคน ทุกคนมีปอบหมด มันถึงโปรยในโปสเตอร์ว่าระวังเจอปอบ เพราะเราอยู่ในสังคมนี้ สังคมจอมปอบหรือเปล่า ถ้ามึงอยู่ไปแล้วชินหรือเคลิ้มตามระวังมึงจะปอบ”

เบื้องหลังอาการป่วยสโตรก 7 ปี
อ๊อฟ – พงษ์พัฒน์ ยังเล่าถึงชีวิตหลังต้องฝ่ามรสุมป่วยเป็นโรคเส้นเลือดในสมองตีบ หรือ สโตรก มานานกว่า 7 ปี ว่าตอนนี้กลับมาพูดได้ดีขึ้นประมาณ 80 – 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว ส่วนขาก็กลับมาใช้งานได้ดีขึ้น เหลือแขนที่ยังยกไม่ขึ้นกลับมาเพียง 60 เปอร์เซ็นต์ แต่ถือว่าดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมากที่ไม่มีแรง ทุกอย่างห้อยลงหมด แขนห้อย ขาห้อย ลุกมานั่งก็ล้มลง สาเหตุจากประสาทที่ใช้ควบคุมส่วนนี้ได้รับความเสียหาย อาการที่ตามมาคือเกร็งตามส่วนต่างๆ ต้องรักษาด้วยกายภาพบำบัดเพื่อต่อสู้กับอาการหดเกร็งของกล้ามเนื้อ และตลอด 7 ปี ที่ป่วยเป็นสโตรก ได้เรียนรู้อะไรเยอะมาก ถ้าเราสู้กับมันเราก็มีโอกาสดีขึ้นได้
“ตอนนั้นพี่อุ้มลูกไปฉีดวัคซีน ระหว่างรอหมอก็อ่านโปสเตอร์ที่เขาติดไว้ว่าอาการเส้นเลือดในสมองมีอาการแบบนี้ๆ นะ พอวันที่พี่เป็น พี่รู้เลยว่าเราเสร็จมันแล้ว ก็เลยบอกกับลูกสาวว่าพ่อไปแล้วนะ ไปไหนไม่รู้ ตายหรือเปล่าก็ไม่รู้ ก็ทิ้งตัวล้มลงไปเพราะมือมันไม่มีแรง และตอนนั้นมันห่วงเรื่องเดียว คือลูกกับเมีย ตอนนั้นพี่แดง – ธัญญา วชิรบรรจง (ภรรยา) ไปถ่ายละครที่นครปฐม ลูกชายอยู่ทาง ลูกสาวอยู่ด้วยกัน โทรบอกลูกชาย โทรบอกเมียแต่มาไม่ได้ก็ร้องไห้ ด้วยความเป็นนักแสดงอาชีพต้องอยู่แสดงให้จบ
เมื่อฟื้นแล้วเห็นหน้าภรรยาก็ขอโทษเขา ก็มึงทำตัวมึงให้เป็นแบบนี้ไง ไม่ใช่ขอโทษที่เป็นแบบนี้ ขอโทษที่มึงทำตัวเองให้เป็นแบบนี้ไง สาเหตุเพราะทำตัวเอง เป็นโรคความดันสูง แต่ไม่กินยา นี่คือสาเหตุที่เกิดอาการเส้นเลือดในสมองตีบ เพราะคิดว่าตัวเองเป็นคนออกกำลังกาย วิ่งทุกวัน 1 ชั่วโมง ประมาณ 10 กิโลเมตร บางวันก็วิ่ง 12 โล 15 โล
สองคืออยากกินอะไรก็กิน เพราะคิดว่าออกกำลังกายแล้ว และสามคือนอนน้อย ทำงานตั้งแต่ 6 โมงเช้า ถึง 4 ทุ่ม ไปขึ้นคอนเสิร์ตต่อ 5 ทุ่ม มีความสุข ลงจากเวทีก็กินข้าวกะเพราะเนื้อไข่ดาว 2 ฟอง ถึงบ้านเกือบตีสอง และ 6 โมงก็ต้องตื่นแล้ว สี่ความเครียดสะสม ห้ากินน้ำน้อยแต่กินกาแฟวันละสามเหยือก คิดว่ากินกาแฟก็เป็นน้ำเหมือนกันแทนกันได้ สาเหตุมันครบเลย จึงไม่แปลกหรอกที่ลืมตาขึ้นมาแล้วจะบอกว่าขอโทษ”
อ๊อฟ – พงษ์พัฒน์ ยังเล่าต่อว่าโรคนี้บางคนเป็นแล้วก็หายได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะว่าสมองยังเสียหายไม่มาก แต่ถ้ากลับมาใช้ชีวิตอย่างเดิมอีกก็มีสิทธิจะเป็นซ้ำได้อีก ดังนั้นเราต้องเรียนรู้สิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง และอย่าลืมว่าสิ่งสำคัญคือครอบครัว ถ้าคุณไม่อยากให้ครอบครัวเดือดร้อน จงอยู่อย่างปกติ การอยู่บนโลกใบนี้ในสภาพร่างกายเป็นแบบนี้ มันไม่ดีกับตัวคุณ และคนรอบข้างทั้งหมด อย่าลืมว่าคุณป่วย ครอบครัวคุณป่วยด้วย คุณต้องรีบหายให้เร็วที่สุด
วงการฟรีทีวีขาลง
เมื่อสอบถามถึงอุตสาหกรรมบันเทิง โดยเฉพาะฟรีทีวีที่อยู่ในช่วงขาลง ในฐานะบุคคลที่ผ่านมาแล้วเกือบทุกยุคตั้งแต่สมัยละครบอกบท ยุคอนาล็อค มาจนถึงยุคดิจิทัล อ๊อฟ กล่าวว่าทุกอย่างเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป เป็นเรื่องธรรมดา มาถึงวันนี้ใครจะไปคิดว่าทีวีอาจจะกลายเป็นเครื่องประดับไปแล้วก็ได้ มันก็ไหลไปตามเทคโนโลยี แต่ในเมื่อคุณทำหน้าที่ตรงนี้หากทีวีขายไม่ได้ตังค์เราก็ขายโซเชียล แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งได้
“จะไปทุกข์ทำไม ทุกข์มีประโยชน์อะไร ไปหาอย่างอื่นทำก็ได้ ดาราบางคนก็ไปขายไก่ย่าง ขายหมูปิ้ง นั่นคือสิ่งที่ถูกต้อง อย่าไปกล่าวหาเขา โซเชียลชอบกล่าวหาว่าเดี๋ยวนี้เป็นอย่างนี้ไปแล้ว จะสื่ออะไร ความจริงคือเขาทำมาหากิน อย่าหน่ายทำกิน อย่าหมิ่นเงินน้อย น้อยสะสมมันก็มาก แต่ถ้ามากกูใช้มันก็น้อย เท่านั้นเอง”