ต้องเรียกว่า จัดเต็มคาราเบล จัดหนักแบบไม่ให้พักกันเลย สำหรับซีรีส์สายเกาตัวแรงในแพลตฟอร์ม Netflix เพราะทันทีที่ Under the Queen’s Umbrella ปิดฉากตอนที่ 16 ไปพร้อมกับความสำเร็จถล่มทลาย สัปดาห์ต่อมา ซีรีส์เรื่องใหม่ที่ถือเป็นซีซั่น 2 ที่บรรดาแฟนานุแฟนต่างตั้งตารอก็เริ่มเปิดฉากฉายในไทยตั้งแต่วันที่ 10 ธ.ค. 2565 ทันทีเลย
Alchemy of Souls: Light and Shadow หรือ เล่นแร่แปรวิญญาณ ซีซั่น 2 กลับมานำเสนอความสนุกสนานอีกครั้ง หลังจาก ซีซั่นแรก Alchemy of Souls ความยาว 10 EP กลายเป็นม้ามืดที่ไม่มีใครคาดมาก่อนว่า เนื้อหาที่เล่าเรื่องย้อนยุค มีความดราม่า แฟนตาซี เรื่องนี้จะถูกอกถูกใจผู้ชมในกว้างทั้งในเกาหลีใต้เอง และอีกหลายๆ ประเทศ (รวมถึงเมืองไทยด้วย)
![](https://feedforfuture.co/wp-content/uploads/2022/12/316787446_1198212777455539_8196155107947308455_n.jpg)
เหตุผลสำคัญที่ทำให้ประสบความสำเร็จและกลายเป็นซีรีส์ที่คนดูตั้งตารอคอยมาจากองค์ประกอบหลักทั้ง การเขียนบทที่ได้ครบรสชาติ โรแมนติก ดราม่า แอ็คชั่น แฟนตาซี ระทึกขวัญ, การคัดเลือกนักแสดงได้อย่างเหมาะสม, โปรดักชันที่เก็บรายละเอียดได้ดี และท้ายที่สุดคือ CGI บวกกับสเปเชียลเอฟเฟ็กต์ที่เนี้ยบ เนียนตา มาพอดีๆ ไม่เยอะเว่อร์วัง หรือทำออกมาแบบกระโหลกกะลา
กลุ่มผู้ชมผู้ชายน่าจะเพลิดเพลินไปกับการต่อสู้ด้วยพลังเวทย์มนต์ ผสมผสานลีลาแบบนิยายหรือหนังกำลังภายในยุคใหม่ ซึ่งไปกันได้ดีกับส่วนผสมของความลึกลับ ระทึกขวัญ (คนที่ถูกแปรวิญาณกลายร่างเป็นเหมือนปีศาจ และสุดท้ายกลายเป็นหิน!)
![](https://feedforfuture.co/wp-content/uploads/2022/12/315981562_456232933254006_1292785865241616103_n.jpg)
ขณะที่ผู้กลุ่มผู้หญิง ก็ได้ลุ้นกับเส้นเรื่องด้านความรักของตัวละครหลักอย่าง จางอุค-มูด๊อก-นักซู ที่ค่อยๆ พัฒนาความสัมพันธ์จากความคลุมเครือของสถานะ เจ้านาย-หญิงรับใช้ ขณะเดียวกันก็เป็น ลูกศิษย์-อาจารย์กันด้วย (ยังไม่นับโทนโรแมนติก ชิงรักชิงเหลี่ยมกันของคนรอบตัว พระเอก นางเอก ที่มีหลายคู่ให้จิ้นกันมาเรื่อยๆ)
แนะนำว่า หากยังไม่ได้ชม ซีซั่นแรก (10 EP) อาจงงกับเรื่องราวที่ต่อยอดมาสู่ ซีซั่น 2 ถ้าจะทำความใจง่ายๆ แบบสั้นกระชับ เส้นเรื่องเดิมของ ภาคแรกนั้น เล่าเรื่องย้อนไปถึงยุค อาณาจักรแทโฮ (เมืองสมมุติที่ไม่ได้อิงประวัติศาสตร์ โชซอนแบบที่เราคุ้นเคย เพราะฉะนั้น อะไรๆ ก็เป็นไปได้หมด) ที่กำลังวุ่นวายเพราะมีจอมเวทย์ ใช้วิชา แปรร่างสลับวิญญาณ สร้างความปั่นป่วนมากขึ้นเป็นลำดับ
![](https://feedforfuture.co/wp-content/uploads/2022/12/288776771_420761543261710_1173851132612568004_n-715x1024.jpg)
ซีซั่น 1 มี แกนเรื่องอยู่ที่ จางอุค (รับบทโดย อีแจอุค) ชายหนุ่มสูงศักดิ์จากตระกูลจาง ผู้ใช้ชีวิตไม่เป็นโล้เป็นพายแต่มีความลับเกี่ยวกับชาติกำเนิดของตัวเอง แต่แล้วความสามารถ รวมถึงวิชาเวทย์ในตัวจางอุค ก็พัฒนากลายเป็นจอมยุทธ์ตัวแปรสำคัญ ภายหลังจากเขาได้ตัว มูด๊อก (รับบทโดย จองโซมิน ) มาเป็นหญิงรับใช้คอยติดตาม
![](https://feedforfuture.co/wp-content/uploads/2022/12/301343927_776385863602199_2312564168846915628_n-1024x627.png)
ซึ่ง มูด๊อก ที่กลายมาเป็นเสมือนอาจารย์ช่วยฝึกวิชาให้กับ จางอุค ก็คือ จอมเวทย์หญิงสาวนักรบชั้นยอดที่ชื่อ นักซู (รับบทโดย โกยุนจอง) ที่ดวงวิญญาณถูกแปรมาอยู่ในร่างกาย มูด๊อก ที่อ่อนแอ แต่เอาเข้าจริงแล้ว มูด๊อก ก็มีที่มาลึกลับ และพัวพันกับ 4 ตระกูลใหญ่ ที่ค้ำบัลลังก์อาณาจักรแทโฮด้วย
ซีซั่น 1 จบลงแบบที่บรรดาคนดูร้อง เฮ้ย! และได้แต่เฝ้ารอบทสรุปใน ซีซั่น 2 อย่างกระสับกระส่าย
จางอุค ผู้กลับมาจากความตาย จะเดินหน้าต่อไปอย่างไร ชะตากรรมของเขาเกี่ยวข้องกับการครองบัลลังก์อาณาจักรแทโฮหรือไม่ เขาจะกลายเป็นคู่แข่ง คู่แค้นกับเพื่อนรักอย่าง โกวอน มกุฎราชกุมารแห่งอาณาจักรแทโฮ หรือไม่?
![](https://feedforfuture.co/wp-content/uploads/2022/12/314686641_3299102540305936_7953554177911549528_n.jpg)
มูด๊อก ขวัญใจกองเชียร์จะสามารถกลับมาได้ หรือจะหายสาบสูญไปตลอดกาล เช่นเดียวกับการคัมแบ็กของ นักซู อีกครั้ง เธอจะตัดสินใจเลือกเดินไปกับ จางอุค หรือ ซอยุล? (คุณชายหล่อละเมียด จากตระกูล ซอ รักแรกฝังใจ ของนักซู)
และท้ายที่สุดแล้ว ความวุ่นวายจากการใช้เวทย์มนต์ต้องห้าม แปรวิญญาณสลับ จะนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลง และบทสรุปในรูปแบบไหน?
คำตอบทั้งหมดทั้งมวล รอให้ไปพิสูจน์ร่วมกัน รับชมไปพร้อมๆ กันได้ตั้งแต่ 10 ธ.ค. 2565 นี้เป็นต้นไป (สตรีมมิ่งทุกวันเสาร์-อาทิตย์ บน Netflix)