หากพูดถึงจังหวัดระนอง หลายคนอาจจะรู้จักในฐานะจังหวัดเล็กๆ ทางชายฝั่งทะเลตะวันตกของภาคใต้ หรือบางคนอาจจะรู้จักในฐานะว่าเป็นเมือง “ฝนแปด แดดสี่” เพราะมีฝนตกชุกมากที่สุดในประเทศไทย
แต่วันนี้ระนองได้ลุกขึ้นมาเปลี่ยนโฉมตัวเองครั้งใหม่ เพื่อส่งเสียงของตัวเองผ่านเวทีการประกวดนางงาม ด้วยการซื้อลิขสิทธิ์ MUT ระนอง จัดประกวดเพื่อเฟ้นหาตัวแทนสาวงามที่เป็นสายเลือดคนระนองแบบ 100% เพื่อส่งเข้าประกวดบนเวที “มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2023” ซึ่งตัวแทนสาวงามคนแรกของ MUT ระนอง ก็คือ “ข้าวฟ่าง พิชญดา ขุนทอง” สาวสวยลูกหลานคนระนองโดยกำเนิด ซึ่ง FEED ได้มีโอกาสพูดคุยกับเธอ พร้อมกับ “ตั้ม รังสรรค์ พงษ์สุน” อดีตพิธีกร U Channel หนึ่งในทีม City Director MUT Ranong ที่มาเล่าถึงจุดเริ่มต้นการมาทำหน้าที่ในฐานะ City Director MUT Ranong รวมถึงสิ่งที่อยากจะทำให้เกิดขึ้นในจังหวัดระนอง ผ่านตัวแทนสาวงามและเวทีการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์
“สวัสดีค่ะ MUT ระนอง “ข้าวฟ่าง พิชญดา ขุนทอง” ค่ะ ก็ตื่นเต้นพอสมควร (ยิ้ม) เพราะนี่ก็เป็นเวทีแรกที่ข้าวฟ่างได้ลงประกวดเวทีจักรวาลที่ใหญ่ขนาดนี้นะคะ แล้วก็เป็นเวทีแรกของจังหวัดระนองเหมือนกันค่ะที่มีการซื้อลิขสิทธิ์ MUT มา ก็เป็นเวทีแรกเป็นชาวระนองแท้ๆ ที่ลงประกวดเวทีมิสยูนิเวิร์สระนองเลยค่ะ”
“ตั้ม รังสรรค์ พงศ์สุน” นะครับ เป็น City Director MUT Ranong ครับ เล่าให้ฟังนิดนึงก่อนนะครับว่าเหตุผลที่ตัดสินใจ เพราะว่าวันที่ทาง TPN เขาโพสต์ว่า เขาตามหาตัว CD อยู่ แล้วระนองเนี่ยยังไม่มีคนซื้อลิขสิทธิ์เลย ก็เลยคิดว่า ไม่ได้ละ MUT ระนอง ต้องอยู่ในมือเรา เพราะว่าก่อนหน้านี้มีหลายๆ เวที ที่เขาซื้อลิขสิทธิ์ระนองก็จริง แต่ก็เป็นการสวมใส่ชื่อระนองให้กับนางงามไป มันเลยทำให้ไม่เกิดเอนเกจเมนต์ในพื้นที่ เราก็คิดว่านี่แหละมันเป็นโอกาสดีที่เราจะได้ผลักดันระนองอย่างจริงๆ จังๆ เสียแล้ว เพราะว่าถ้ามันอยู่ในมือเรา มันก็จะได้ตามคอนเซ็ปต์ที่เราวางไว้ก็คือ มีการประกวด การมีส่วนร่วมในพื้นที่ มีการจัดอีเวนต์ในพื้นที่ มีการจ้างงานในพื้นที่เกิดขึ้นครับ”
“ทีม City Director ของระนอง มี 4 คน ทั้ง 4 คนนี้ไม่ได้มาสายนางงามเลยครับ อย่างตั้มเป็นคนดูคอนเทนต์ เวลามีประกวดก็จะดูแต่ว่าไม่ได้ลึกถึงขั้นแบบต้องคนนี้ คือไม่ได้กูรูนางงามขนาดนั้น แต่ดูเพราะว่ามันเป็นอีเวนต์ที่น่าสนใจ เป็นอีเวนต์ที่สามารถขับเคลื่อนพลัง empowering ของผู้หญิงได้ วิธีคิด เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม ได้ ก็จะสนใจในประเด็นนั้นไปครับ แต่เรารู้สึกว่ามันมีโอกาสบางอย่างที่คอนเทนต์นี้มันสามารถทำให้ระนองเป็นจุดสนใจได้ คนจะกลับมาสนใจระนองได้ครับ”
การจัดงานที่เน้นคอนเซ็ปต์ “ระนองออริจินอล”
ข้าวฟ่าง : เพราะว่าคอนเซ็ปต์ปีนี้ เหมือนที่บอกเขาต้องการระนองออริจินอลจริงๆ ก็คือเขาอยากให้คนในระนองหรือว่าเด็กๆ ในระนอง ได้มีกิจกรรมในการที่จะได้ร่วมพัฒนาศักยภาพของตัวเองและได้ทำให้เห็นว่าชาวระนอง มีศักยภาพที่จะมาใช้ในด้านนี้ เด็กระนองก็มีศักยภาพ รวมไปถึงพี่ๆ ทีมงานที่เขาเข้ามาทำกิจกรรมต่างๆ ก็อยากจะเป็นกระบอกเสียง คือทุกคนมีเป้าหมายเดียวกันที่จะพัฒนาจังหวัดระนองให้จักรวาลได้รู้จักค่ะ
ตั้ม รังสรรค์ : อย่างที่บอกอยากให้ระนองเกิดการเอนเกจเมนต์กันภายในจริงๆ ต้องยอมรับก่อนว่า ระนองมันเกิดสภาวะสมองไหล สมองไหลก็คือเด็กเรียนจบ ม.6 แล้ว พอมาเรียนมหาวิทยาลัยปุ๊บ น้อยคนจะกลับบ้าน เพราะว่ามันไม่มีการจ้างงาน เศรษฐกิจมันไม่ได้เอื้อเฟื้อขนาดนั้น การที่เรามาใช้ระนองออริจินอล คือหนึ่งอยากให้คนในพื้นที่มีส่วนร่วมกับนางงามที่เป็นคนระนองจริงๆ เป็นลูกหลานของเขาจริงๆ รวมถึงกรรมการซึ่งกรรมการหลายคนก็เป็นคนที่เรียนจบจากกรุงเทพฯ แล้วกลับไปทำธุรกิจในจังหวัด ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่หมดเลย เขาก็จะมีวิธีการคิดที่เป็น Global Mindset ก็เอาคนเหล่านี้แหละไปช่วยไปเป็นกรรมการในพื้นที่ แม้กระทั่งซัพพลายเออร์ที่จัดงาน เราพยายามจะใช้คนในพื้นที่ให้หมด เพื่อดันบาร์ของคุณภาพของงานในจังหวัดให้มันสูงขึ้นไปอีกสเต็ปหนึ่ง เพราะฉะนั้นแล้วทุกอย่างก็จะขึ้นอยู่กับระนองออริจินอลทั้งหมด
อย่างชุดประจำชาติ เราก็จะมีโควต้าให้ส่งเข้าประกวดโดยคนโดยเด็กในพื้นที่เหมือนกัน ปีนี้เป็นน้อง ม.6 ที่สนใจในเรื่องของการออกแบบชุด เราก็ให้โอกาสเขาให้เป็นเวทีที่เขาได้ไปเจอประสบการณ์นอกห้องเรียน ซึ่งมันก็เหมือนการเอาอีเวนต์ไปลงจังหวัดแล้วคนในจังหวัดก็ได้มีส่วนร่วมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ม.4-6 ก็เอามาเป็นสตาฟในงานอีเวนต์เหมือนกัน เพื่อให้เขาได้เจอประสบการณ์จริง เพื่อเอาแฟ้มสะสมผลงานไปยื่นเข้ามหาวิทยาลัยอีกสเต็ปหนึ่งด้วยครับ
คาดหวัง “เวทีนางงาม” จะเปลี่ยนระนอง
ตั้ม รังสรรค์ : อันดับแรกที่คาดหวังเลยก็คือ เรื่องของการที่ชุมชนมีส่วนร่วมกัน อันนี้สำเร็จแล้วหนึ่งสเต็ป ต่อไปที่ต้องลุ้นก็คือเมื่อเราส่งน้องที่เป็นระนองไปบนเวทีจริงๆ ตรงนั้นจะเกิดบรรยากาศที่สนับสนุนกันคึกคักผ่านหน้าออนไลน์ คนระนองก็จะรู้สึกว่านี่แหละเป็นลูกหลานเขาจริงๆ ที่ส่งไปเวทีจริงๆ ไม่ใช่ลูกหลานแค่ชื่อที่ถูกสวม แต่คือคนในพื้นที่ของเขาจริงๆ มันก็จะมีส่วนร่วมมากขึ้น พอหลังจากเวทีนางงามแล้วปุ๊บ มันก็จะมีคอนเทนต์ของน้องต่อไปอีก ไม่ใช่แค่ประกวดนางงามจบ เพราะหลังจากนี้จนถึงก่อนประกวดปี 2024 เราก็จะมีคอนเทนต์ที่ให้น้องชวนไปท่องเที่ยว ก็จะมีคอนเทนต์ผลิตออกมาอีก 12 คอนเทนต์ตลอดทั้งปีครับ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจระนองทั้งหมด ซึ่งเราก็จะโฟกัสไปที่คนตัวเล็กตัวน้อย ร้านอาหารเล็กๆ ที่เข้าไม่ถึงดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง เราจะไปช่วยตรงนั้น เพราะฉะนั้นแล้วสุดท้ายแล้วภาพรวมจะไปได้ทั้งจังหวัดครับ
“หลังจากนั้นที่มากที่สุดอยากจะเห็น ก็คือจังหวัดระนองมีคนไปเที่ยวเยอะขึ้น จังหวัดระนองเป็นที่รู้จักมากขึ้น ไม่ใช่พูดแค่ว่าอยู่จังหวัดระนอง เอ๊ะ ระยองหรอ อยู่ตรงไหน ทำให้ระนองเป็นที่จดจำมากขึ้น ว่าระนองอยู่ภาคใต้นะ คนรู้จักระนองมากขึ้นนะ แค่นั้นเลยครับ”
เวทีนางงาม เปลี่ยนชีวิตที่สโลว์ไลฟ์ของคนระนองให้คึกคักมากขึ้น
ข้าวฟ่าง : จังหวัดระนองไม่ได้มีอะไรแบบนี้มานานมากๆ แล้ว ทุกคนก็มีความตื่นเต้น แล้วก็ให้ความสนใจเกี่ยวกับการประกวดเวทีมิสยูนิเวิร์สมากๆ ทุกคนก็คอยเป็นกำลังใจ ส่งแรงเชียร์ ไม่ว่าจะเป็นในด้านการให้กำลังใจ หรือว่าการมีส่วนร่วมส่วนช่วยต่างๆ ในเวทีประกวดมิสยูนิเวิร์ส ของจังหวัดระนองนะคะ ทุกคนให้ความร่วมมือแล้วก็มีความตื่นเต้นมากๆ กับการมีเวทีมิสยูนิเวิร์สครั้งนี้เลยค่ะ
ตั้ม รังสรรค์ : อันดับแรกเลยคือคึกคัก บรรยากาศมันคึกคักมากขึ้นครับ รู้แล้วว่ามีความเอนเตอร์เทนเมนต์อยู่ในจังหวัด คือจังหวัดระนองมันจะเป็นเมืองฝนแปดแดดสี่เนอะ คนจะสโลว์ไลฟ์มาก พอมีความเอนเตอร์เทนเมนต์ ก็เริ่มรู้สึกว่าคนเริ่มตื่นตัว คึกคักมาก มีหลายคนแพลนว่าปีหน้าอยากจะมาลงทั้งเวทีผู้ใหญ่และเวทีเด็ก เด็กระนองหลายคนมีศักยภาพมาก แต่น่าเสียดายที่ไม่มีเวทีสนับสนุน ไม่มีพื้นที่ให้เขา ซึ่งตรงนี้ในส่วนผู้ปกครองเองไม่ว่าจะเป็นรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ เขาก็เริ่มเล็งเห็นแล้วว่ามันมีพื้นที่ปลอดภัยให้เด็กๆ ได้แสดงความสามารถนะ เขาก็พยายามเตรียม เท่าที่ทราบนะครับ ก็พยายามเตรียมความพร้อมเพื่อลงในปี 2024 แล้วครับ (ยิ้ม)
การจัดประกวดที่ไม่ขอความช่วยเหลือจากทางภาครัฐ
ตั้ม รังสรรค์ : อันนี้เป็นโจทย์ที่คนถามเยอะมาก ว่าทำไมถึงไม่เข้าไป ก็คือเรามีวิธีคิดอีกแบบหนึ่ง มันยากถ้าจะเดินเข้าไปแล้วอธิบายว่าอยากได้แบบนี้ คือหนึ่งเวทีการประกวด MUT ถ้าในระนองคนจะไม่ค่อยเก็ตจะไม่เข้าใจ จนกว่าภาพมันจะออกมา เพราะฉะนั้นแล้วเราเลือกการไดรฟ์เร็วดีกว่า ในการไม่เข้าไปขอเงินภาครัฐใดๆ เลย แล้วก็จัดเองซึ่งมันเร็วกว่า อยากได้อย่างที่เราต้องการ อยากได้นางงามแบบนี้ อยากได้รูปแบบงานแบบนี้ แต่โชคดีครับที่พอเราพูดคอนเซ็ปต์ตรงนี้ไป กลายเป็นภาคเอกชนตัวเล็กตัวน้อยเขาเข้ามาสนับสนุน เป็นระนองซัพอร์ตเตอร์เยอะมาก แล้วเขาก็รู้สึกว่าภูมิใจที่เขาได้เป็นส่วนหนึ่งในการประกวด MUT ระนอง อันนี้มันไม่ใช่แค่สปอนเซอร์รายหนึ่งรายใหญ่หนึ่งสองสาม แต่มันรวมสปอนเซอร์หลายๆ คน ซึ่งก็มีเด็กระนองหลายคนที่ออกมาจากระนองแล้ว ก็อยากเป็นผู้สนับสนุนก็เป็นสปอนเซอร์ให้โดยที่ไม่คาดหวังไม่เอาอะไรเลย
ความหวังท่ามกลางความกดดัน
ข้าวฟ่าง : ถ้าถามว่ากดดันไหม มันก็มีนิดนึงค่ะ เพราะว่าจังหวัดระนองคือเขาเพิ่งจัดกันเป็นครั้งแรกด้วยเลยมีความตื่นเต้นมากๆ เพราะว่าจะได้เป็น คือได้เป็นตัวแทนคนแรกของจังหวัดมาเวทียูนิเวิร์ส ก็ตื่นเต้นพอสมควรเลยค่ะ
ตั้ม รังสรรค์ : เวลาเราส่งนางงาม เราก็คาดหวังเนอะ ว่าจะเข้ารอบลึกที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ แต่ก็อย่างที่เห็นก็จะมี คนก็จะชอบถามว่า มันมีตัวเต็งอยู่นะ ไม่กังวลบ้างหรอ จุดนี้ตั้มมองว่า ทุกคนอาจจะอยากไปที่หนึ่ง แต่ตั้มเชื่อว่าอีกจุดหนึ่งที่คนแข่งก็คือแข่งเพื่อที่จะชนะตัวเอง ทุกคนอยากจะเอาพาวเวอร์ของตัวเองออกมานำเสนอว่าฉันทำได้ นั่นแหละครับมันคือความความสนุกของเวที เพราะทุกคนพยายามจะพัฒนาตัวเอง เพื่อให้ไปถึงจุดที่ขั้นกว่าของตัวเองให้ได้ วันนั้นจะได้ที่หนึ่งสองสามสี่ห้า ก็อยู่ที่หน้างาน ทุกคนตัดสิน กรรมการเป็นคนตัดสิน แต่สิ่งที่จะชนะที่สุดก็คือเด็กหรือน้องข้าวฟ่างที่เราส่งไป เขาชนะตัวเอง เขาสามารถพัฒนาตัวเองได้ไปอีกสเต็ปหนึ่งแล้ว แล้วคนระนองคนต่างจังหวัดก็รู้จักระนองผ่านข้าวฟ่างแล้วด้วย นั่นคือความสำเร็จแล้วครับ
ตั้ม รังสรรค์ : สำหรับชาวระนอง นี่มันคือเวทีของคุณ เราไม่สามารถสำเร็จได้ ถ้าไม่มีทุกคนในการสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ กรรมการ หรือผู้สนับสนุนในภาคส่วนต่างๆ เพราะฉะนั้นแล้วจำไว้เลยว่า สเต็ปต่อไปทุกคนจะมีส่วนร่วมได้แล้ว โดยแค่มีตัวตั้มแล้วก็ตัว CD เป็นหัวหน้าห้อง แล้วอยากทำอะไร มาบอกกัน แล้วเดี๋ยวเราก็จะขับเคลื่อนระนองไปด้วยกัน เพราะเวลามันสำเร็จ มันจะสำเร็จทั้งจังหวัด มันไม่ได้แค่ใครคนใดคนหนึ่งครับ (ยิ้ม)
ข้าวฟ่าง : ก็ฝากแฟนๆ แล้วก็คนในจังหวัดระนอง รวมไปถึงแฟนๆ เวทีมิสยูนิเวิร์สนะคะ ฝากเป็นกำลังใจให้ข้าวฟ่าง มิสยูนิเวิร์สระยอง และพี่ๆ เพื่อนๆ ทั้ง 76 จังหวัดด้วยนะคะ แล้วก็ฝากจังหวัดระนอง ให้ทุกๆ คนได้ลองไปเที่ยวได้ลองสัมผัสลองรู้จักกับจังหวัดระนอง แล้วทุกคนจะตกหลุมรักจังหวัดระนองค่ะ ขอบคุณค่ะ
